ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ พลอยเนื้ออ่อน กันก่อนดีกว่า ว่าแท้จริงแล้ว ที่เรียกว่าพลอยเนื้ออ่อนนั้น คือ พลอยชนิดไหน? และใช้อะไรเป็นเกณฑ์?

ปัจจุบันพลอยที่พบเห็นมีอยู่ทั่วไปตามร้านเครื่องประดับอัญมณี จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ พลอยเนื้ออ่อน และ พลอยเนื้อแข็ง โดยใช้เกณฑ์ความถ่วงจำเพาะในการหาค่าความแตกต่างของพลอยทั้งสองชนิดนี้ เมื่อ ค่าการวัดความถ่วงจำเพาะออกมาน้อยกว่า 8 โมห์สเกล จะถือว่าพลอยชนิดนั้นเป็น พลอยเนื้ออ่อน และในทางกลับกัน ถ้าค่าความถ่วงจำเพาะออกมามีค่ามากกว่า 8 โมห์สเกล ก็จะถือเป็น พลอยเนื้อแข็ง นั่นเอง

ทั้งนี้ พลอยที่จัดอยู่ในประเภทพลอยเนื้ออ่อน ได้แก่ พลอยใน ตระกูลควอตซ์ แทบทุกชนิด ซึ่งมักมีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ที่ประมาณ 6 – 7 โมห์สเกล นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น อเมทิสต์ ซิทริน โรสควอตซ์ สโมกกี้ควอตซ์ คาลซิโดนี นิล อาเกต แจสเปอร์ อำพัน คาร์เนเลี่ยน เทอร์ควอยซ์ ไข่มุก เพอริโด ฯลฯ เป็นต้น

และเพราะเหตุที่พลอยเนื้ออ่อนเป็นพลอยที่จะเกิดรอยขูดขีด ก่อให้เกิดริ้วรอยบนเนื้อพลอยได้ง่าย การดูแลรักษา และ ทำความสะอาดหลังการใช้งาน จึงต้องมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยมี หลักการง่ายๆ 5 ประการ ดังนี้ คือ

1. ภายหลังการใช้งานทุกครั้ง ควรทำความสะอาดเครื่องประดับอัญมณีก่อนเก็บลงกล่อง โดยใช้น้ำอุ่น และ สบู่เหลวอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดเครื่องประดับเบาๆ เช็ดให้แห้ง จากนั้นจึงเก็บไว้ในกล่อง หรือภาชนะที่บุผ้านุ่ม หรือ ผ้ากำมะหยี่ เพื่อป้องกันการกระทบกระแทก

 

2. ขณะสวมใส่ พยายามอย่าให้พลอยถูก ความร้อนสูง หรืออยู่กลางแดดจัดนานๆ พลอยอาจเปลี่ยนสีได้

3. หลีกเลี่ยงการ สวมเครื่องประดับขณะว่ายน้ำ ในสระ หรือลงเล่นน้ำในทะเล
 

4. ควรหลักเลี่ยง การเก็บเครื่องประดับปะปนกัน โดยเฉพาะเครื่องประดับที่ทำจาก พลอยเนื้ออ่อน เพราะจะเกิดรอยขีดข่วนจากการกระทบกันได้ง่าย

5. ไม่ควรฉีด น้ำหอม ขณะสวมใส่เครื่องประดับ เพราะอาจทำให้เกิดมลทิน เนื้อพลอยจะหมองได้
 

เพียงเท่านี้ เครื่องประดับ ของคุณก็จะ งดงาม และมี อายุยืนยาว อยู่คู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน.......

 

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ